ไปนอกทาง! พระพยอม มอง ภิกษุณีขายสบู่น้ำมนต์
อ้างสรรพคุณเชิงอิทธิฤทธิ์ปาฏิหาริย์ โฆษณาเกินความเป็นจริงมีความผิดแน่ ถ้าดีจริงยี่ห้ออื่นตายหมดแล้ว
จากกรณี ภิกษุณีสุทัสสนา หรือ หมอปลาย ได้ออกมาโพสต์คลิปในเฟซบุ๊กขายสบู่น้ำมนต์ ราคาก้อนละ 199 บาท อ้างสรรพคุณว่า สามารถขจัดอวิชชาต่างๆ เพื่อเสริมโชคเสริมลาภ หนุนดวงชะตา และจะประสบความสำเร็จในชีวิต ช่วยให้ผู้ที่ใช้ได้รับพลังจากท่านยมบาล และท้าวเวสสุวรรณอย่างเต็มที่ แก้ดวงตก โดนทำของ แก้ของจากเจ้ากรรมนายเวรได้
เมื่อเวลา 17.00 น วันที่ 27 กันยายน 2565 ผู้สื่อข่าวเดินทางไปพบ พระพยอม กัลยาโณ เจ้าอาวาสวัดสวนแก้ว ต.บางเลน อำเภอบางใหญ่ จังหวัดนนทบุรี เพื่อสอบถามกรณีดังกล่าวที่เกิดขึ้น พระพยอมเปิดเผยว่า เรื่องนี้เดี๋ยวทาง ศรีสุวรรณ จรรยา จะจัดการให้เอง แล้วมีอีกคนนึงที่น่าจะไปถามคือ แพรี่ อาตมาเป็นพระจะหาว่าไปกดขี่เพศ ไปเหยียดหยาม ไปปิดกั้น พระพุทธเจ้ามองการณ์ไกล ไม่อยากให้มีภิกษุณี จึงวางวินัย 200-300 ข้อ
เรื่องการค้าขายไม่รู้ไปขายเองหรือเปล่า มันต้องมีกระบวนการ
ถ้านั่งขายเองอวดสรรพคุณว่าดีอย่างนั้น พิเศษอย่างนี้ ไม่รู้ว่ามีในสบู่วิเศษจริงหรือเปล่า มันต้องมีการพิสูจน์ ตอนนี้ยังฟันธงเรื่องอื่นไม่ได้ แต่เรื่องความไม่เหมาะสมฟันธงได้แน่นอน ถ้าไปนั่งโฆษณาอวดอ้างสรรพคุณเชิงอิทธิฤทธิ์ปาฏิหาริย์ มีคุณวิเศษจะสร้างนั่นสร้างนี่ให้กับผู้ที่ใช้สบู่ อันนี้เป็นการโฆษณาเกินความเป็นจริง ต้องมีความผิดแน่นอน เสียดายภิกษุณีเมืองไทยมีเยอะแยะ แต่มาทำเสียสักองค์สององค์ ทำให้ภิกษุณีส่วนใหญ่ที่ตั้งหน้าตั้งตาปฏิบัติธรรม แตกฉานในการปฏิบัติธรรม
อยากให้ ศรีสุวรรณ จรรยา ไปตรวจสอบดูว่าจะจัดการอย่างไรถึงจะเหมาะสม อาตมาเป็นพระภิกษุจะวิจารณ์อะไรมากคงจะไม่เหมาะสมเกินไป ตัวเองอยู่ในฐานะนักบวชหญิงควรเอื้อให้เกิดสัมมาอาชีพ หากินดีงามไม่ปล้นไม่จี้ไม่ฆ่าและไม่ลักขโมย ถ้าไปแสดงเองเก็บเงินเก็บทองเอง มันก็ไม่เหมาะ ถ้าปัดเป่าได้จริงสบู่ยี่ห้ออื่นตายหมด สู้สบู่ภิกษุณีคนนี้ไม่ได้ อะไรเกินควรเกินจริง มันจะก็จะมีการตั้งข้อสังเกตของคนที่มีวิจารณญาณ โฆษณาเกินความเป็นจริงชวนเชื่อให้คนหลงเชื่อ ต้องเรียกว่าไปนอกทาง